หลังจากบทความก่อนหน้าที่เราได้ทำความรู้จักการสอบ MFF และ FTMO ไปแล้ว ลำดับต่อมา เราจะพาทุกคนไปดูข้อแตกต่างของการสอบทั้ง 2 แบบ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจสมัครสอบ แต่หากใครยังไม่ได้อ่านบทความที่อธิบายถึงการสอบทั้ง 2 ชนิด สามารถเข้าไปอ่านก่อนมาดูภาพรวมได้ครับ
MFF (My Forex Funds) เป็นโครงการสนับสนุนเงินทุนให้แก่นักเทรดผ่านการสอบ MFF โดยผู้ที่สอบผ่านจะสามารถนำเงินทุนของโครงการมาใช้เทรด และแบ่งกำไรให้กับโครงการ ซึ่งการแบ่งสัดส่วนกำไรเริ่มต้นที่ 50% – 80% และสามารถแบ่งได้สูงสุดถึง 90%
FTMO เป็นโครงการบริการจัดสรรเงินทุนให้กับนักเทรดที่มีความสามารถมาทำกำไรให้กับบริษัทผ่านการสอบ โดย FTMO จะทำหน้าที่หาเงินทุนมาให้นักเทรดนำไปบริหารจัดการ ซึ่งการแบ่งสัดส่วนกำไรเริ่มต้นที่ 80% และสามารถแบ่งได้สูงสุดถึง 90%
ในการสอบ นักเทรดจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของการสอบที่ตนเองสมัคร ทั้งการทำกำไรให้ได้ตามเป้าหมาย และจำนวนที่สามารถขาดทุนได้ โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
- ระยะเวลาที่ใช้ในการสอบ – 3 เดือน
- เป้าหมายกำไร – ไม่มี
- ขาดทุนได้สูงสุด – $500/วัน ไม่เกิน $1,200/การสอบ
- ระยะเวลาที่ต้องทำการซื้อขาย – 3 ครั้ง/สัปดาห์
- Leverage – 1:500
ในการสอบ นักเทรดจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของการสอบที่ตนเองสมัคร ทั้งการทำกำไรให้ได้ตามเป้าหมาย และจำนวนที่สามารถขาดทุนได้ โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
- ระยะเวลาที่ใช้ในการสอบ – ระยะที่ 1 30 วัน, ระยะที่ 2 60 วัน รวมเป็น 3 เดือน
- เป้าหมายกำไร – $1,000
- ขาดทุนได้สูงสุด – $500/วัน ไม่เกิน $1,000/การสอบ
- ระยะเวลาที่ต้องทำการซื้อขาย – 10 ครั้ง/เดือน
- Leverage – 1:100
การสอบจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามระดับความสามารถของผู้สมัคร โดยมีขนาดบัญชี ดังนี้
บัญชี Rapid – ขนาด $10,000 ถึง $100,000
บัญชี Evaluation – ขนาด $5,000 ถึง $300,000
บัญชี Rapid – ขนาด $2,000 ถึง $50,000
การสอบจะแบ่งออกเป็น 5 ประเภท 2 ระยะ ตามขนาดบัญชีของผู้สมัคร โดยมีขนาดบัญชีแบ่งเป็น 2 ระดับหลัก ๆ ดังนี้
บัญชี Normal – ขนาด $10,000 ถึง $200,000
บัญชี Aggressive – ขนาด $10,000 ถึง $100,000
อัตราค่าสมัครสอบขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีที่ผู้สอบเลือก ซึ่งอยู่ระหว่าง $49 – $2,450 และหากสอบผ่านแล้ว ผู้สอบจะสามารถขอคืนค่าสมัครนั้นได้
อัตราค่าสมัครสอบขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีที่ผู้สอบเลือก ซึ่งอยู่ระหว่าง €155 – €1,080 (หรือประมาณ $161 – $1,121) และหากสอบผ่านแล้ว ผู้สอบจะสามารถขอคืนค่าสมัครนั้นได้
ในการดำเนินการทดสอบ MFF จะใช้แพลตฟอร์ม MT4 และ MT5
ในการดำเนินการทดสอบ FTMO จะใช้แพลตฟอร์ม MT4, MT5 และ cTrader
จากข้างต้น เราจะเห็นได้ว่า การทดสอบทั้ง 2 ประเภท แม้จะเป็นกองทุนที่สนับสนุนนักเทรดที่มีทุนทรัพย์น้อยเช่นเดียวกัน แต่รายละเอียด, เงื่อนไข, อัตราค่าสมัคร ตลอดจนผลตอบแทนที่ทุกคนจะได้รับนั้นมีความแตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนที่ทุกคนจะสมัครสอบ โปรดศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ ตลอดจนเงื่อนไขให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจ เพราะค่าสมัครมีราคาค่อนข้างสูง และอย่าลืมศึกษากลยุทธ์การเทรดให้พร้อมก่อนเริ่มบททดสอบ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมดังนี้
คอร์สเรียนสำหรับมือใหม่ ฟรี!! : คลิกที่นี่
คลังบทความความรู้เพิ่มเติม : คลิกที่นี่
บทความรีวิวโบกเกอร์เพิ่มเติม : คลิกที่นี่
บทวิเคราะห์รายวัน : คลิกที่นี่