Consumer Price Index (CPI) : ดัชนีราคาผู้บริโภค
Consumer Price Index (CPI) คือ การวัดทางสถิติที่จัดทำโดย Bureau of Labor Statistics (BLS) ที่ใช้วัดน้ำหนักความเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า และบริการที่ผู้บริโภค หรือครัวเรือนนั้นซื้อมาบริโภค
CPI เป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ถูกอ้างถึงบ่อยที่สุด และใช้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อพิจารณาภาวะเงินเฟ้อ นักลงทุนจึงให้ความสำคัญกับ CPI เนื่องจากเป็นตัวบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจกำลังดำเนินไปในทิศทางใด
อีกทั้ง ยังเป็นตัวเลขที่มีอิทธิพลต่อการคาดการณ์ราคาสำหรับสินทรัพย์ที่อ่อนไหวต่อเงินเฟ้อ เช่น พันธบัตรและสินค้าโภคภัณฑ์ โดยทั่วไปแล้ว CPI ก็มักใช้เป็นตัววัดภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งส่วนใหญ่ CPI ที่ดีคือต่ำถึงปานกลางในช่วง 2-3%
CPI สำคัญอย่างไร?
CPI เป็นตัวเลขบ่งชี้ถึงสภาพเงินเฟ้อ และเงินฝืด ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ถือว่า เป็นภัยคุกคามสภาพเศรษฐกิจ หาก CPI สูง จะแสดงให้เห็นอัตราเงินเฟ้อที่สูง ก็จะมีผลกระทบกับมาตรฐานค่าครองชีพของประชาชน หากรายได้ของประชาชนไม่ได้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ก็จะประสบกับค่าครองชีพที่สูง และไปกระทบถึงสภาพเศรษฐกิจ เมื่อสินค้าทุกอย่างมีราคาสูงขึ้น ในภาคการผลิต ต้นทุนการผลิตก็จะสูงขึ้น ผู้ผลิตเองก็จะผลิตสินค้าออกมาได้น้อย ทำให้ได้กำไรน้อย จึงอาจจะกระทบไปถึงการจ้างงานที่ต้องมีการไล่คนงานออก เนื่องจากผู้ผลิตแบกต้นทุน และค่าใช้จ่ายไม่ไหว
CPI Basket / สินค้าและบริการที่ถูกคำนวณใน CPI
- ขนส่ง (Transportation) 5%
- รักษาพยาบาล (Health care) 7%
- พลังงาน (Energy Incl. Gasoline) 7%
- อาหาร (Food) 14%
- สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities (Incl. Medication and Autos) 20%
- ที่อยู่อาศัย (Housing) 33%
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (Other expenses) 14%
รวม : 100%
CPI Basket แสดงราคาสินค้าและบริการที่ถูกซื้อโดยครัวเรือนทั่วไป ประมาณ 93% ของคนอเมริกา
CPI ส่งผลกับหน่วยงานใดบ้าง ?
1. หน่วยงานภาครัฐ
หน่วยงานภาครัฐใช้ตัวเลข CPI ในการพิจารณาทิศทางของเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยถ้าหาก CPI สูงแสดงให้เห็นว่าประเทศกำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่สูง ทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนภายในประเทศ ซึ่งภาครัฐจะทำหน้าที่ร่วมกันกับธนาคารกลางของแต่ละประเทศ โดยการใช้ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคมาเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายการเงิน และนโยบายการคลัง
2. อสังหาริมทรัพย์ และการลงทุน
เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ หรือผู้ให้เช่า สามารถใช้ตัวเลข CPI ในการพิจารณาขึ้นราคาค่าเช่าได้ในอนาคต และตัวเลข CPI ที่เพิ่มขึ้นสามารถกดดันราคาพันธบัตรด้วยเช่นกัน การลงทุนในตราสารหนี้มักจะสูญเสียมูลค่าในช่วงเงินเฟ้อ ความต้องการผลตอบแทนเหล่านี้จะทำให้เกิดการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ซึ่งก็จะไปเพิ่มต้นทุนสำหรับธุรกิจที่ไปกู้ยืมเงินเพื่อขยายกิจการ ส่งผลกระทบต่อรายได้ที่ลดลงและกดดันตลาดหุ้น
3. FED
FED หรือธนาคารกลางสหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจกำหนดทิศทงเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของประเทศ โดย CPI จะใช้ตัวเลขประกอบการพิจารณาว่าเศรษฐกิจอยู่ในภาวะเงินเฟ้อหรือไม่ และจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินอย่างไรเพื่อป้องกันและแก้ไข เช่น การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อลดปริมาณเงินเข้าสู่ตลาด เป็นต้น
กล่าวโดยสรุป CPI เป็นตัวเลขที่บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อ และเงินฝืด ซึ่งทั้งสองนี้ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ทำให้คนในประเทศเกิดความเดือดร้อน ถ้าหาก CPI สูงแสดงให้เห็นว่าภายในประเทศกำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อสูงจนไม่สามารถควบคุมได้จนเกิดผลเสียกับประเทศ ส่วนถ้าหาก CPI น้อยแสดงให้เห็นว่าภายในประเทศกำลังเผชิญกับอัตราเงินฝืด ซึ่ง CPI ส่งผลกับหน่วยงานภาครัฐ, อสังหาริมทรัพย์ การลงทุน และ FED ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานนี้ต่างมีความสำคัญกับเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะ FED ที่เป็นหน่วยงานทำหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการเงิน ดังนั้น CPI จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความเพิ่มเติมได้ดังนี้