ปัจจัยที่ส่งผลต่อเงินดอลลาร์ 2023

  Posted on 1 year ago (Feb 02, 2023)
5926
List of content
ปัจจัยที่ส่งผลต่อเงินดอลลาร์ 2023

เงินดอลลาร์แข็งค่าสูงต่อเนื่องในปี 2022 จนกดดันเงินบาทไทยและสกุลเงินอื่น ๆ แม้ว่าในช่วงสิ้นปีเงินดอลลาร์จะปรับตัวลงเล็กน้อย แต่นักลงทุนในตลาดก็ยังคงจับตามองการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ต่อไป ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อเงินดอลลาร์ 2023 จะมีอะไรบ้าง และสถานการณ์เงินดอลลาร์จะดำเนินไปในทางใด ไปติดตามกันครับ

 

ภาพรวมสกุลเงินดอลลาร์ในปี 2022

ในปี 2022 เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราสามารถสังเกตได้จาก Dollar Index (DXY) หรือดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ใช้วัดความแข็งค่าของเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าเงินตราต่างประเทศทั้ง 6 สกุล ประกอบด้วยเงินเยนญี่ปุ่น ปอนด์อังกฤษ ดอลลาร์แคนาดา โครนาสวีเดน ฟรังก์สวิส และยูโร

 

ปัจจัยที่ส่งผลต่อเงินดอลลาร์ 2023

 

โดยดัชนี DXY จะปรับตัวขึ้นเมื่อเงินดอลลาร์แข็งค่า และในช่วงต้นปี 2022 ที่ผ่านมา ดัชนี DXY ได้ปรับขึ้นจาก 95.14 จุด มาอยู่ที่ 114.78 จุด ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ นั่นหมายความว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นโดยเปรียบเทียบ ซึ่งกดดันให้สกุลเงินต่าง ๆ อ่อนค่าลง หนึ่งในนั้นรวมถึงเงินบาทไทยที่ทำสถิติอ่อนค่าหนักสุดในรอบ 16 ปี ส่วนเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าหนักแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 24 ปี

สาเหตุที่ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อปี 2022 คืออะไร? – ปรากฏการณ์นี้เกิดจากอัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงสุดถึง 9.1% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1981 หรือในรอบ 40 ปี โดยระดับเงินเฟ้อครั้งนี้มาจากการอัดฉีดเงิน (QE) และการกดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 0.25% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19

 

ปัจจัยที่ส่งผลต่อเงินดอลลาร์ 2023

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Fed จะประสบความสำเร็จในการกู้เศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมา แต่การฟื้นตัวที่ร้อนแรงก็ตามมาด้วยอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น จนทำให้ Fed ต้องเร่งนำเงินออกจากระบบ (QT) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนแตะ 4.50% ในเดือนธันวาคม ขณะที่เศรษฐกิจของหลาย ๆ ประเทศยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ เงินทุนจึงไหลไปยังฝั่งสหรัฐฯ จนทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2022 ก่อนจะปรับตัวลงมาเล็กน้อยในช่วงสิ้นปีจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง

 

4 ปัจจัยที่ส่งผลต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หลัก ๆ มีด้วยกัน 4 ปัจจัย ดังนี้

1. อุปสงค์ – อุปทาน

อุปสงค์และอุปทานถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินดอลลาร์ เมื่อมีคนต้องการ เงินดอลลาร์ก็จะยิ่งมีค่าสูงขึ้น แน่นอนว่าดอลลาร์ถือเป็นสกุลเงินที่มีความต้องการสูงกว่าสกุลเงินอื่น ๆ ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจและปัจจัยอื่น ๆ เพราะการนำเข้าและส่งออกสินค้าหรือบริการมักจะใช้ดอลลาร์เป็นสกุลเงินหลักในการแลกเปลี่ยน ดังนั้น ผู้คนจึงมีความต้องการดอลลาร์อยู่เสมอ

อีกทั้ง ดอลลาร์ยังเป็นสกุลเงินสำรองของโลก ดังนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ จึงสามารถขายตั๋วเงินคลังได้มากขึ้น และสามารถเพิ่มอุปทานได้โดยไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ส่วนภาคเอกชนเองก็ออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนเช่นกัน 

2. ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ

อีกปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินของประเทศนั้น ๆ คือ ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ถือเป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หรือถูกใช้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ดังนั้น แม้สหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับความเป็นไปได้ในการเทขายพันธบัตรหรือหุ้นในช่วงเศรษฐกิจอ่อนแอ แต่ดอลลาร์ก็ยังคงมีความต้องการที่สูง เพราะนักลงทุนมองว่า ดอลลาร์เป็นแหล่งหลบภัยในช่วงดังกล่าว

 

ปัจจัยที่ส่งผลต่อเงินดอลลาร์ 2023

 

3. อัตราดอกเบี้ย

มูลค่าของสกุลเงินแต่ละสกุลมักจะได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยในประเทศของตน แต่สำหรับดอลลาร์นั้นได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับกระทรวงการคลังสหรัฐฯ โดยปกติยิ่งอัตราดอกเบี้ยจ่ายต่ำเท่าใด ความต้องการก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น เงินดอลลาร์จึงกลายเป็นที่หลบภัยในโลกที่ไม่แน่นอน

ปัจจัยนี้ทำให้กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ สามารถจ่ายอัตราดอกเบี้ยต่ำและยังคงได้รับราคาเสนอซื้อที่สูง ซึ่งหมายความว่า สหรัฐฯ สามารถก่อหนี้ได้มากขึ้น ขณะที่ประเทศอื่นต้องจ่ายผลตอบแทนที่สูงขึ้นเพื่อต่ออายุหนี้

4. อัตราหนี้สินต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

อัตราหนี้สินต่อ GDP คือ การเปรียบเทียบหนี้สาธารณะทั้งหมดของประเทศกับผลผลิตทางเศรษฐกิจ ซึ่งอัตราส่วนนี้ใช้บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ ว่าแข็งแกร่งและมีโอกาสชำระหนี้ได้เพียงใด อีกทั้ง ยังใช้เพื่อพิจารณาว่า ประเทศนั้น ๆ กำลังเผชิญกับความวุ่นวายทางเศรษฐกิจหรือไม่ ซึ่งอัตราหนี้สินต่อ GDP เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงิน ยิ่งมีหนี้สินมากเท่าไหร่ ค่าของเงินดอลลาร์ก็ยิ่งลดลงเร็วขึ้นเท่านั้น

 

ปัจจัยที่ส่งผลต่อเงินดอลลาร์ 2023

 

สถานการณ์ดอลลาร์ในปี 2023

หลังจากที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงปลายปี 2022 ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายก็ได้ออกมาคาดการณ์สถานการณ์ดอลลาร์ในปี 2023 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ JP Morgan Research ที่คาดว่าการหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวของ Fed ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และมีแนวโน้มที่เงินดอลลาร์จะแข็งค่าต่อไปในปี 2023

JP Morgan Research กล่าวว่า นี่ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากตลาดยังคงมีปัจจัยที่หนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่า ทั้งนี้ การแข็งค่าอาจไม่สูงเท่าปี 2022 จากปัจจัยที่แตกต่างกัน เพราะในปี 2023 Fed มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยและติดตามเศรษฐกิจ เพื่อดูผลกระทบและจัดการกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เพราะปี 2023 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัวต่ำที่สุด ก่อนที่จะค่อย ๆ ฟื้นตัวในปี 2024

การหยุดขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราวนี้จะทำให้การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ดีขึ้น ขณะที่สกุลเงินอื่น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนต่ำจะมีการป้องกันมากขึ้น ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องยากที่ดอลลาร์จะแข็งค่าเท่ากับจุดเดิมในปี 2022

Meera Chandan นักยุทธศาสตร์ FX ระดับโลกของ JP Morgan กล่าวว่า “ท้ายที่สุดแล้ว การหยุดขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราวของ Fed ไม่เพียงพอที่จะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งสังเกตได้จากผลการดำเนินงานของค่าเงินดอลลาร์ในช่วงที่ Fed หยุดขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราว 4 ครั้งล่าสุดนั้นไม่สอดคล้องกันและขึ้นอยู่กับบริบทของมหภาคในขณะนั้น”

ตัวอย่างเช่น ในช่วงทศวรรษ 1970 ที่มีอัตราเงินเฟ้อรุนแรง เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในช่วงหลายเดือนก่อนที่ Fed จะหยุดขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราว และกลับมาแข็งค่าอีกครั้งเมื่ออัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่

Chandan กล่าวเสริมว่า “ยิ่งไปกว่านั้น ความเสี่ยงในภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ นั้นอยู่ในระดับสูง และนี่คือสิ่งที่เป็นปัจจัยหนุนค่าเงินดอลลาร์”

การแข็งค่าของดอลลาร์ในปี 2023 จะได้รับอิทธิพลจากการเติบโตที่อ่อนแอนอกสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ส่งผลในระยะยาว โดยช่องโหว่หลัก คือ การที่สหรัฐฯ ยังคงต้องพึ่งพาพลังงานจากภายนอก นอกจากปัจจัยข้างต้น อีกปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น คือ การเทรดด้วยกลยุทธ์ Carry Trade เพราะ 56% ของสกุลเงินทั่วโลกในขณะนี้ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าดอลลาร์ ดังนั้น มันจึงเป็นแรงจูงใจแก่นักลงทุนในการยืมเงินดอลลาร์เพื่อทำการค้า

 

ปัจจัยที่ส่งผลต่อเงินดอลลาร์ 2023

 

การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลอย่างไร?

1) ช่วยชะลอเงินเฟ้อ

เมื่อเงินดอลลาร์แข็งค่าจะช่วยให้การนำเข้าสินค้าถูกลง ซึ่งช่วยชะลออัตราเงินเฟ้อภายในประเทศ เนื่องจากสหรัฐฯ มีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมากกว่าครึ่ง ขณะเดียวกัน ประเทศคู่ค้าและคู่เงินที่นำมาเปรียบเทียบจะได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ทำให้ระดับเงินเฟ้อนอกสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น

2) รายได้ของบริษัทนำเข้า – ส่งออกลดลง

บริษัทต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ที่มีรายได้หลักจากธุรกิจในประเทศอื่น ๆ หรือบริษัทที่มีรายได้เป็นสกุลเงินอื่น ๆ นอกจากดอลลาร์จะได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน กล่าวคือ เมื่อดอลลาร์แข็งค่า สกุลเงินอื่น ๆ จะอ่อนค่าลง เป็นเหตุให้บริษัทเหล่านี้มีรายได้ลดลงจากค่าเงินที่นำมาเทียบกับดอลลาร์

3) กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่

เมื่อเงินดอลลาร์แข็งค่า กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ที่มีหนี้สาธารณะอยู่ในสกุลเงินดอลลาร์จะได้รับผลกระทบ เนื่องจากภาระหนี้สินที่ต้องชำระเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ อีกทั้ง ยังเป็นการลดอำนาจในการซื้อของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาลง

4) ผลตอบแทนจากการลงทุน

พอร์ตการลงทุนของนักลงทุนมักจะได้รับผลกระทบจากความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะสินทรัพย์ประเภทหุ้น กองทุนรวม ตราสารหนี้ การแลกเปลี่ยนค่าเงิน รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ ที่ใช้ดอลลาร์เป็นสกุลเงินหลักในการแลกเปลี่ยน

นอกจากผลกระทบในข้างต้นแล้ว ยังมีภาคส่วนอื่น ๆ ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการอ่อนค่าของสกุลเงินอื่น ๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐบาล เอกชน หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไป

 

โดยสรุปแล้ว สถานการณ์ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2022 มีส่วนที่ส่งผลกระทบมาถึงปี 2023 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า สถานการณ์ดอลลาร์ในปีนี้มีความเป็นไปได้หลายประการที่อาจทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง แต่อาจไม่รุนแรงเท่าปี 2022 อย่างไรก็ดี นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์จาก Fed เพื่อประเมินความน่าจะเป็นต่อไป รวมถึงควรเพิ่มความระมัดระวังแก่พอร์ตการลงทุนด้วย

 

Source: The balance money, Capital, JP Morgan

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมดังนี้

คอร์สเรียนสำหรับมือใหม่ ฟรี!! : คลิกที่นี่

คลังบทความความรู้เพิ่มเติม : คลิกที่นี่

บทความรีวิวโบกเกอร์เพิ่มเติม : คลิกที่นี่

บทวิเคราะห์รายวัน : คลิกที่นี่


บทความ แนะนำ
คอร์สเรียน Forex ยอดนิยม