ปัจจุบันตลาดการเงินมีสินทรัพย์ให้เราเลือกลงทุนหลายรูปแบบ ซึ่งอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ถือว่าได้รับความนิยม จนเรียกว่าเป็นการลงทุนระดับสากล คือ การลงทุนในหุ้น เนื่องจากหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ให้สัดส่วนการเป็นเจ้าของสำหรับนักลงทุน ซึ่งสัดส่วนขึ้นอยู่กับเงินทุน โดยในบทความนี้ทางทีมงาน Forexlearning ได้เขียนอธิบายความหมายของหุ้น, ความสำคัญของหุ้น รวมถึงเวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้น
หุ้น (Stock) หรือตราสารทุน คือ สินทรัพย์ที่กิจการได้ออกมาเพื่อแสดงสัดส่วนการเป็นเจ้าของตามสัดส่วนที่นักลงทุนได้เข้าซื้อ ซึ่งถ้าหากนักลงทุนมีการซื้อหุ้นมากเท่าไหร่ ก็ส่งผลให้นักลงทุนมีสิทธิความเป็นเจ้าของกิจการเท่านั้น
หุ้นเป็นส่วนหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนระยะยาว และอยู่ในความเสี่ยงที่เราสามารถยอมรับได้ เพราะมีการบริหารจัดการบริษัทเข้ามารองรับ ถ้าหากกิจการเติบโต กำไรเพิ่มขึ้นระยะยาว ราคาหุ้นก็จะปรับขึ้นตาม ซึ่งการเข้าลงทุนกับกิจการที่ลงทุนหากมีรายได้สูงผลตอบแทนที่ได้รับสูงตามไปด้วย เพราะนักลงทุนหลายคนสนใจในตลาดหุ้น เนื่องจากการลงทุนในหุ้นเป็นการลงทุนสากล และคนทั่วโลกก็ยอมรับในระบบของตลาดหุ้น
แต่อย่างไรผลตอบแทนการลงทุนไม่ค่อยแน่นอน เนื่องจากขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของบริษัท นี่จึงถือว่าเป็นความเสี่ยงที่สำคัญของการลงทุนในหุ้น
นักลงทุนได้ผลตอบแทนจากหุ้น 2 รูปแบบ ดังนี้
1. เงินปันผล
เงินปันผลได้จากส่วนแบ่งของบริษัท ตามนโยบายของบริษัท ซึ่งเงินปันผลจะจ่ายหรือไม่จ่ายก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัท แต่ถ้าหากบริษัทไม่จ่ายเงินปันผล บริษัทจะนำเงินไปลงทุนเพื่อที่จะทำการขยายกิจการเพิ่ม
2. ส่วนต่างราคา
ส่วนต่างราคา คือ นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นในราคาที่ถูกและขายหุ้นในราคาที่แพงกว่า ซึ่งจะเกิดกำไรขึ้น ในทางตรงข้ามเข้าซื้อหุ้นราคาที่แพงกว่าราคาขาย นักลงทุนก็ขาดทุนนั่นเอง
ตลาดหุ้น เป็นตลาดที่มีการรวบรวมของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์เพื่อระดมเงินทุนจากผู้ลงทุน เป็นสถานที่ซื้อขาย หรือที่เราเรียกว่า “โบรกเกอร์” ซึ่งการทำงานของตลาดหุ้น คือ ศูนย์กลางการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยปัจจุบันการซื้อขายสามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้ ซึ่งถือว่าอำนวยความสะดวกรวดเร็วแก่นักลงทุนและบริษัท
เวลาเปิด-ปิด ตลาดหุ้นในประเทศไทย ปกติเปิดวันจันทร์-วันศุกร์ และมีวันหยุดตามปฏิทินของธนาคาร เนื่องจาก ธนาคารหยุดวันไหนก็ซื้อ-ขายหุ้นไม่ได้
ช่วงเช้า เปิดระหว่าง 09.55-10.00 น. ถึง 12.30 น.
ช่วงบ่าย เปิดระหว่าง 14.25-14.30 น. ถึง 16.35-16.40 น.
Pre Open | สุ่มเวลาเปิด | ช่วงเวลาซื้อขายภาคเช้า | พักตลาด | Pre Open | สุ่มเวลาเปิด | ช่วงซื้อขายภาคบ่าย | Pre Close | สุ่มเวลาปิด |
9.30 น. | 9.55 น. | 10.00 น. | 12.30 น. | 14.00 น. | 14.25 น. | 14.30 น. | 16.30 น. | 16.35 น. |
บริษัท A จดทะเบียนหลักทรัพย์ที่ 10,000 บาท แบ่งเป็น 1,000 หุ้น นาย ก มีจำนวนหุ้น 500 หุ้น ผูืถือหุ้นนาย ข มีจำนวนหุ้น 200 หุ้น ส่วนผู้ถือหุ้นนาย ค มีจำนวนหุ้น 300 หุ้น หลังจากที่บริษัทได้มีการดำเนินการ 1 ปี ได้กำไร 15,000 บาท บริษัทจึงตัดสินใจจ่ายเงินปันผลเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นจำนวนทั้งสิ้น 15,000/1,000 = ปันผลหุ้นละ 15 บาท
ผู้ถือหุ้น | จำนวนหุ้น | สัดส่วนการถือหุ้น | เงินปันผลจ่ายต่อหุ้น | เงินปันผลทีไ่ด้รับ |
นาย ก | 500 | 50% | 15 | 7,500 |
นาย ข | 200 | 20% | 15 | 3,000 |
นาย ค | 300 | 30% | 15 | 4,500 |
จากตัวอย่าง เงินปันผลที่ผู้ถือหุ้นได้รับ เป็นไปตามสัดส่วนของจำนวนหุ้นที่ลงทุน ซึ่งนาย ก ลงทุนจำนวนหุ้นมากสุดจึงทำให้ได้รับเงินปันผลมากที่สุด
กล่าวโดยสรุป หุ้นหรือตราสารทุน เป็นสินทรัพย์ที่มีการลงทุนระดับสากล สร้างความมั่นคงให้กับนักลงทุนในระยะยาว ซึ่งการเป็นเจ้าของหุ้นกิจการขึ้นอยู่เงินทุนที่ลงทุน ส่วนผลตอบแทนการลงทุนขึ้นอยู่กับการดำเนินงานของกิจการ หากเศรษฐกิจซบเซา บริษัทมีกำไรลดลง นักลงทุนได้รับผลตอบแทนลดลง หรือถ้าหากได้รับก็อยู่ในระดับที่ต่ำ แต่ถ้าหากบริษัทมีกำไรที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนก็จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ดังนั้น การลงทุนหุ้นจึงมีความเสี่ยง เนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาด ดังนั้น นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลต่าง ๆ อย่างละเอียดรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
Source : setinvestnow, ลงทุนแมน, investopedia
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมดังนี้
คอร์สเรียนสำหรับมือใหม่ ฟรี!! : คลิกที่นี่
คลังบทความความรู้เพิ่มเติม : คลิกที่นี่
บทความรีวิวโบกเกอร์เพิ่มเติม : คลิกที่นี่
บทวิเคราะห์รายวัน : คลิกที่นี่