ในการวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค จะสังเกตเห็นว่านักเทคนิคบางคนใช้ Indicator หลายตัวและค่อนข้างซับซ้อน เส้นขึ้นมาเต็มกราฟไปหมด จนบางทีก็ไม่ดูไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งการใช้ Indicator หลายตัวเพื่อมายืนยันสัญญาณกันนั้นก็เป็นเทคนิคที่ดีและสามารถเพิ่มเปอร์เซ็นการชนะได้ด้วย แต่บางคนใช้ Indicator ที่เป็นประเภทเดียวกัน มายืนยันสัญญาณกันเอง ซึ่งฟังดูแล้ว อาจจะไม่ค่อยสมเหตุสมผล
ตัวอย่างเช่น การเอา MACD มาใช้พร้อมกันกับเส้น EMA ซึ่งหากไปดูสูตร MACD จริง ๆ แล้วมันก็คือเส้น EMA โดยวิธีคำนวณมันเหมือนกัน ก็จะได้ผลที่ไม่ต่างกัน
การเลือกใช้ Indicator
ในการเลือกใช้ Indicator นั้น อย่างแรกควรจะรู้ว่า เครื่องมือตัวนั้นทำหน้าที่อะไร บางตัวใช้วิเคราะห์ Trend บางตัวใช้วิเคราะห์ Momentum บางตัววิเคราะห์ความผันผวน หรือบางตัวใช้เพื่อวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย ถ้าจะนำมาใช้ร่วมกันก็ควรเลือกใช้ประเภทที่ต่างกันออกไป เพื่อที่จะทำให้การวิเคราะห์มีประมิทธิภาพมากขึ้น และจะได้ไม่เกิดความซ้ำซ้อนในการใช้เครื่องมือต่าง ๆ
โดยประเภทของ Indicators สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้
• Trend Indicators – ใช้วัดแยกแยะแนวโน้ม เช่นพวก MACD , Parabolic SAR และเส้นค่าเฉลี่ยต่างๆ เป็นต้น
• Momentum Indicators – ใช้วัดพวก Overbought / Oversold เช่น RSI , Stochastic และ CCI
• Volume Indicators – วัดปริมาณการซื้อขายต่างๆ เช่น OBC , Chaikin Money Flow, Force Index และ Money Flow Index เป็นต้น
• Volatility Indicators – วัดความผันผวน เช่น Bollinger Bands, Average True Range และพวก Envelopes ต่างๆ เป็นต้น
