รูปแบบของกราฟ คืออะไร? ทำไมต้องรู้จัก

  Posted on 4 years ago (Oct 26, 2020)
3297
List of content
รูปแบบของกราฟ คืออะไร? ทำไมต้องรู้จัก

ในการวิเคราะห์การเคลื่อนที่ของกราฟแต่ละประเภท สิ่งสำคัญที่เทรดเดอร์ควรรู้เป็นอันดับแรก ๆ เลยก็คือ "รูปแบบของกราฟ" เพราะกราฟแต่ละประเภท อาจเหมาะกับเทรดเดอร์แตกต่างกัน อีกทั้ง ยังส่งผลต่อการวิเคราะห์กราฟของเทรดเดอร์ด้วย ซึ่งถึงแม้จะเป็นหัวข้อง่าย ๆ แต่หลายคนก็มักจะมองข้ามมันไป ดังนั้น ทีมงานของเราจึงจะนำกราฟแต่ละประเภทมานำเสนอให้ทุกท่านได้รู้จักก่อนเริ่มเทรดจริง

 

รูปแบบของกราฟ คืออะไร? 

การเคลื่อนไหวของราคา สัญญาณการซื้อขาย พฤติกรรมของตลาด รวมถึงนัยสำคัญต่าง ๆ มักจะถูกแสดงออกมาผ่านกราฟ ซึ่งกราฟเหล่านี้จะมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ตามแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์ใช้ หรือตามที่เทรดเดอร์ตั้งค่า แต่ในแพลตฟอร์ม MT4 กราฟจะมีด้วยกัน 3 รูปแบบ

 

องค์ประกอบของราคา

อันดับแรก เรามารู้จักองค์ประกอบของราคา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกราฟกันก่อน โดยแท่งเทียนราคาแต่ละแท่งจะมีส่วนองค์ประกอบหลัก 4 ส่วน ดังนี้

1) ราคาเปิด (O: Open)

2) ราคาปิด (C: Close)

3) ราคาสูงสุด (H: High)

4) ราคาต่ำสุด (L: Low)

รูปแบบของกราฟ คืออะไร? ทำไมต้องรู้จัก

 

 

รูปแบบของกราฟ

จากที่กล่าวไปข้างต้น รูปแบบของกราฟจะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์เลือกใช้ โดย MT4 จะมีกราฟให้เลือก 3 รูปแบบ ดังนี้

 

1. Bar Charts หรือกราฟแท่ง

Bar Charts มักถูกใช้ในการเทรด Forex โดยมีลักษณะเป็นเส้นตรงยาวตามรูปด้านบน ประกอบด้วยองค์ประกอบของราคาทั้ง 4 ส่วน คือ

- ราคาเปิด (Open) เป็นขีดสั้นแนวนอนหันหัวไปทางด้านซ้ายของ Bar

- ราคาปิด (Close) จะหันหัวไปทางขวาของ Bar เสมอ

- ราคาสูงสุด (High) คือ ด้านบนสุด

- ราคาต่ำสุด (Low) คือ ด้านล่างสุด

 

รูปแบบของกราฟ คืออะไร? ทำไมต้องรู้จัก รูปแบบของกราฟ คืออะไร? ทำไมต้องรู้จัก

 

ข้อดีของกราฟแท่ง

- แสดงองค์ประกอบของราคาครบทั้ง 4 ส่วน ในช่วงเวลาหนึ่ง

- ง่ายต่อการค้นหารูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างง่ายในกรอบเวลาที่สั้นลง

- มีขนาดกะทัดรัดและแม่นยำ ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดปัจจุบัน แนวโน้ม และระดับราคา

 

ข้อเสียของกราฟแท่ง

มองเห็นค่อนข้างยาก เมื่อเทียบกับกราฟแท่งเทียน และกราฟเส้น

- ไม่มีการใช้สีที่ชัดเจน

- ยากต่อการพิจารณาว่า ราคาสินทรัพย์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นหรือลดลง

- มือใหม่อาจเข้าใจยากว่า แท่งไหนกำลังขึ้นและแท่งไหนกำลังลง

- ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคบางตัวอาจทำงานได้ดีบนกราฟแท่ง

- กราฟแท่งไม่มีให้บริการในทุกแพลตฟอร์มการซื้อขาย

 

 

2. Candlestick หรือกราฟแท่งเทียน

Candlestick หรือที่เรียกกันว่ากราฟแท่งเทียน เป็นกราฟที่นิยมและเป็นที่ชื่นชอบที่สุดของเทรดเดอร์ เนื่องจากแสดงช่วงข้อมูลกว้าง โดยมีลักษณะ คือ ส่วนกลางเป็นเนื้อเทียน มีไส้เทียนด้านบนและด้านล่าง ซึ่งเป็นองค์ประกอบของราคาทั้ง 4 ส่วนเช่นเดียวกับ Bar Charts ดังนี้

- ราคาเปิด (Open) เป็นขั้วเส้นด้านล่างของเนื้อเทียน

- ราคาปิด (Close) เป็นขั้วเส้นด้านบนของเนื้อเทียน

- ราคาสูงสุด (High) คือ ปลายไส้เทียนด้านบน

- ราคาต่ำสุด (Low) คือ ปลายไส้เทียนด้านล่าง

รูปแบบของกราฟ คืออะไร? ทำไมต้องรู้จัก รูปแบบของกราฟ คืออะไร? ทำไมต้องรู้จัก

 

ข้อดีของกราฟแท่งเทียน

- นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดมักใช้กราฟแท่งเทียนเพื่อนำเสนอการวิเคราะห์

- กราฟราคาให้ข้อมูลกว้าง ง่ายต่อการอ่านและใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยน

- แสดงข้อมูลทั้งหมดของแต่ละ Time Frame ทุกองค์ประกอบราคา

- นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาและช่วยให้ผู้ค้าคาดการณ์ราคาในอนาคต

- มีความยืดหยุ่นและสามารถใช้เดี่ยว ๆ หรือใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ ได้

- มีให้บริการทุกแพลตฟอร์มการซื้อขาย

 

ข้อเสียของกราฟแท่งเทียน

ไม่แสดงการเคลื่อนไหวของราคาที่แน่นอนของคู่สกุลเงิน หรือสินทรัพย์อื่น ๆ

- ไม่นำเสนอแบบภาพรวม

- ไม่ได้บอกว่าแท่งเทียนไหนมาก่อน สูงหรือต่ำ

- ไม่แสดงแนวโน้มระยะยาวและโมเมนตัมราคา

- แตกต่างกันในทุกกรอบเวลา และในแพลตฟอร์มการซื้อขายต่าง ๆ

 

 

3. Line Charts หรือกราฟเส้น

Line Charts มีลักษณะเป็นเส้น โดยเป็นการนำราคาปิดของแต่ละช่วงเวลามาลากโยงกันเป็นเส้นเดียว ดังนั้น องค์ประกอบของราคาจึงใช้เพียงราคาปิด (Close) เท่านั้น

 

 

ข้อดีของกราฟเส้น

กราฟเส้นเป็นแผนภูมิ Forex ประเภทพื้นฐาน เรียบง่าย และชัดเจนที่สุด

- เข้าใจง่ายสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่

- มีประโยชน์สำหรับการระบุแนวโน้มของคู่สกุลเงินอย่างรวดเร็ว

- ไม่รวมสัญญาณรบกวนของตลาดทั้งหมด

- เหมาะสำหรับการอัปเดตข้อมูล

- ง่ายต่อการระบุแนวรับและแนวต้านและแบบจำลองกราฟิก

 

ข้อเสียของกราฟเส้น

ข้อมูลไม่เพียงพอและไม่ครบถ้วน เมื่อเทียบกับกราฟอื่น ๆ

- ใช้ราคาปิดเท่านั้น

- เหมาะสำหรับการศึกษาราคาแบบผิวเผินเท่านั้น 

- ทำให้มองข้ามการเคลื่อนไหวของราคาหลายอย่าง

 

 

เราสามารถเลือกใช้กราฟรูปแบบใดก็ได้ในการเทรด แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน หรือแล้วแต่กลยุทธ์ที่เลือกใช้ในการวิเคราะห์ ตอนนี้ได้รู้จักรูปแบบกราฟแต่ละแบบกันไปแล้ว ลองเล่นกันดูนะครับว่า แบบไหนเราใช้แล้วถนัดกว่ากัน

 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมดังนี้

คอร์สเรียนสำหรับมือใหม่ ฟรี!! : คลิกที่นี่

คลังบทความความรู้เพิ่มเติม : คลิกที่นี่

บทความรีวิวโบกเกอร์เพิ่มเติม : คลิกที่นี่

บทวิเคราะห์รายวัน : คลิกที่นี่  


บทความ แนะนำ
คอร์สเรียน Forex ยอดนิยม