ในการวิเคราะห์การเคลื่อนที่ของกราฟแต่ละประเภท สิ่งสำคัญที่เทรดเดอร์ควรรู้เป็นอันดับแรก ๆ เลยก็คือ "รูปแบบของกราฟ" เพราะกราฟแต่ละประเภท อาจเหมาะกับเทรดเดอร์แตกต่างกัน อีกทั้ง ยังส่งผลต่อการวิเคราะห์กราฟของเทรดเดอร์ด้วย ซึ่งถึงแม้จะเป็นหัวข้อง่าย ๆ แต่หลายคนก็มักจะมองข้ามมันไป ดังนั้น ทีมงานของเราจึงจะนำกราฟแต่ละประเภทมานำเสนอให้ทุกท่านได้รู้จักก่อนเริ่มเทรดจริง
การเคลื่อนไหวของราคา สัญญาณการซื้อขาย พฤติกรรมของตลาด รวมถึงนัยสำคัญต่าง ๆ มักจะถูกแสดงออกมาผ่านกราฟ ซึ่งกราฟเหล่านี้จะมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ตามแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์ใช้ หรือตามที่เทรดเดอร์ตั้งค่า แต่ในแพลตฟอร์ม MT4 กราฟจะมีด้วยกัน 3 รูปแบบ
อันดับแรก เรามารู้จักองค์ประกอบของราคา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกราฟกันก่อน โดยแท่งเทียนราคาแต่ละแท่งจะมีส่วนองค์ประกอบหลัก 4 ส่วน ดังนี้
จากที่กล่าวไปข้างต้น รูปแบบของกราฟจะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์เลือกใช้ โดย MT4 จะมีกราฟให้เลือก 3 รูปแบบ ดังนี้
Bar Charts มักถูกใช้ในการเทรด Forex โดยมีลักษณะเป็นเส้นตรงยาวตามรูปด้านบน ประกอบด้วยองค์ประกอบของราคาทั้ง 4 ส่วน คือ
- ราคาเปิด (Open) เป็นขีดสั้นแนวนอนหันหัวไปทางด้านซ้ายของ Bar
- ราคาปิด (Close) จะหันหัวไปทางขวาของ Bar เสมอ
- ราคาสูงสุด (High) คือ ด้านบนสุด
- ราคาต่ำสุด (Low) คือ ด้านล่างสุด
- แสดงองค์ประกอบของราคาครบทั้ง 4 ส่วน ในช่วงเวลาหนึ่ง
- ง่ายต่อการค้นหารูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างง่ายในกรอบเวลาที่สั้นลง
- มีขนาดกะทัดรัดและแม่นยำ ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดปัจจุบัน แนวโน้ม และระดับราคา
- มองเห็นค่อนข้างยาก เมื่อเทียบกับกราฟแท่งเทียน และกราฟเส้น
- ไม่มีการใช้สีที่ชัดเจน
- ยากต่อการพิจารณาว่า ราคาสินทรัพย์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นหรือลดลง
- มือใหม่อาจเข้าใจยากว่า แท่งไหนกำลังขึ้นและแท่งไหนกำลังลง
- ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคบางตัวอาจทำงานได้ดีบนกราฟแท่ง
- กราฟแท่งไม่มีให้บริการในทุกแพลตฟอร์มการซื้อขาย
Candlestick หรือที่เรียกกันว่ากราฟแท่งเทียน เป็นกราฟที่นิยมและเป็นที่ชื่นชอบที่สุดของเทรดเดอร์ เนื่องจากแสดงช่วงข้อมูลกว้าง โดยมีลักษณะ คือ ส่วนกลางเป็นเนื้อเทียน มีไส้เทียนด้านบนและด้านล่าง ซึ่งเป็นองค์ประกอบของราคาทั้ง 4 ส่วนเช่นเดียวกับ Bar Charts ดังนี้
- ราคาเปิด (Open) เป็นขั้วเส้นด้านล่างของเนื้อเทียน
- ราคาปิด (Close) เป็นขั้วเส้นด้านบนของเนื้อเทียน
- ราคาสูงสุด (High) คือ ปลายไส้เทียนด้านบน
- ราคาต่ำสุด (Low) คือ ปลายไส้เทียนด้านล่าง
- นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดมักใช้กราฟแท่งเทียนเพื่อนำเสนอการวิเคราะห์
- กราฟราคาให้ข้อมูลกว้าง ง่ายต่อการอ่านและใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยน
- แสดงข้อมูลทั้งหมดของแต่ละ Time Frame ทุกองค์ประกอบราคา
- นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาและช่วยให้ผู้ค้าคาดการณ์ราคาในอนาคต
- มีความยืดหยุ่นและสามารถใช้เดี่ยว ๆ หรือใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ ได้
- มีให้บริการทุกแพลตฟอร์มการซื้อขาย
- ไม่แสดงการเคลื่อนไหวของราคาที่แน่นอนของคู่สกุลเงิน หรือสินทรัพย์อื่น ๆ
- ไม่นำเสนอแบบภาพรวม
- ไม่ได้บอกว่าแท่งเทียนไหนมาก่อน สูงหรือต่ำ
- ไม่แสดงแนวโน้มระยะยาวและโมเมนตัมราคา
- แตกต่างกันในทุกกรอบเวลา และในแพลตฟอร์มการซื้อขายต่าง ๆ
Line Charts มีลักษณะเป็นเส้น โดยเป็นการนำราคาปิดของแต่ละช่วงเวลามาลากโยงกันเป็นเส้นเดียว ดังนั้น องค์ประกอบของราคาจึงใช้เพียงราคาปิด (Close) เท่านั้น
- กราฟเส้นเป็นแผนภูมิ Forex ประเภทพื้นฐาน เรียบง่าย และชัดเจนที่สุด
- เข้าใจง่ายสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
- มีประโยชน์สำหรับการระบุแนวโน้มของคู่สกุลเงินอย่างรวดเร็ว
- ไม่รวมสัญญาณรบกวนของตลาดทั้งหมด
- เหมาะสำหรับการอัปเดตข้อมูล
- ง่ายต่อการระบุแนวรับและแนวต้านและแบบจำลองกราฟิก
- ข้อมูลไม่เพียงพอและไม่ครบถ้วน เมื่อเทียบกับกราฟอื่น ๆ
- ใช้ราคาปิดเท่านั้น
- เหมาะสำหรับการศึกษาราคาแบบผิวเผินเท่านั้น
- ทำให้มองข้ามการเคลื่อนไหวของราคาหลายอย่าง
เราสามารถเลือกใช้กราฟรูปแบบใดก็ได้ในการเทรด แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน หรือแล้วแต่กลยุทธ์ที่เลือกใช้ในการวิเคราะห์ ตอนนี้ได้รู้จักรูปแบบกราฟแต่ละแบบกันไปแล้ว ลองเล่นกันดูนะครับว่า แบบไหนเราใช้แล้วถนัดกว่ากัน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมดังนี้
คอร์สเรียนสำหรับมือใหม่ ฟรี!! : คลิกที่นี่
คลังบทความความรู้เพิ่มเติม : คลิกที่นี่
บทความรีวิวโบกเกอร์เพิ่มเติม : คลิกที่นี่
บทวิเคราะห์รายวัน : คลิกที่นี่