บ่อยครั้งที่เทรดเดอร์มักจะเจอสถานการณ์ที่ยากในการตัดสิน ส่วนใหญ่แล้วก็จะนำไปสู่การล้างพอร์ท แต่น้อยครั้งมากที่เราจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วเราล้างพอร์ทเพราะอะไร การล้างพอร์ทเป็นประสบการณ์ที่นักเทรด Forex จะต้องเจอ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Margin Call การโดนมา Margin Call นั่นก็เพราะว่า เราใช้ Leverage สูงมาก ทำให้เกิดการเรียกเงินเติมเงิน จริง ๆ แล้วเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นได้ในโลกความเป็นจริงทั่วไป นั่นคือ การที่เจ้าหนี้เรียกเก็บหนี้ แต่เราไม่มีจ่าย ตอนแรก ๆ เราก็กู้จากแบงค์ในวงเงินกู้เพื่อใช้จ่าย หนักข้อเข้าหน่อยพอกู้แล้วเงินชักหน้าไม่ถึงหลังก็กู้จากบัตรเครดิต หลังจากนั้นก็ไปหากู้มาโปะหนี้และรวมเป็นก้อนเดียว แต่ก็อยากจ่ายเร็ว จึงหาทางทำธุรกิจแล้วก็ต้องไปกู้นอกระบบมา ซึ่งเนี่ยแหละครับ วงจรการผูกมัดของพวกผีพนันนั่นแหละ แม้ว่าเราจะไม่ได้เล่นพนันอยู่ก็ตาม แต่เพราะว่าความโลภและขาดวินัย ก็ทำให้เราวนกลับไปที่เดิมและจบแบบเดิม ๆ ได้ทุกครั้ง
บทความนี้เราจะมาดูว่าสาเหตุอะไรทำให้เราล้างพอร์ทได้อย่างสม่ำเสมอ ในบทความนี้ครับ
ใช้ Leverage เยอะเกินไป
โดยปรกติแล้วเทรดเดอร์มักจะไม่ยอมรับ ว่าตัวเองใช้ Leverage เยอะเกินไป สิ่งที่พวกเขาทำคือ เขาจะดุขนาด Margin ที่ใช้เป็นหลัก นั่นทำให้นำไปสู่หายนะได้ เพราะว่า ถ้า Leverage เยอะ ทำให้ใช้ Margin น้อย เมื่อราคาเคลื่อนไหวเร็วทำให้กำไรขาดทุนต่อจุดนั้น มากเพราะเรายังเห็นว่า มันยังใช้ Margin ไม่เยอะและยังส่งคำสั่งสั่งได้อีกเยอะ นี่มันคือ หลุมพรางของ Broker ชัด ๆ เลย เขาอยากให้เราล้างพอร์ทครับ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือ ตอนที่เปิดบัญชีเทรดกำหนดขนาด Leverage ให้ต่ำ ๆ ครับ เท่าไหร่หน่ะหรือ? ขนาดที่ต้องใช้ก็คือ 1:10 หรือ ไม่ควรเกิน 1:50 เท่านั้นครับ สำหรับใครที่มีเงินไม่พอที่จะใช้ Leverage เท่านี้ผมก็บอกได้เลยว่า อย่าเอาเงินท่านมาเสี่ยงจะดีกว่า เพราะว่าการใช้ Leverage 1:10 มันก็คือ การยืมเงินโบรคเกอร์มาลงทุน 10 เท่านั่นแหละครับ การยืมเงินคนอื่น 10 เท่าแล้วใช้เงินตัวเองเดียว 1 เท่านี่วันหนึ่งถ้าเราไม่มีวินัยทางการเงินขึ้นมามีแต่หายนะที่จะเกิดขึ้นกับเราครับ
ใช้ Lot ใหญ่เกินไป
ปัญหาสืบเนื่องจากการใช้ Leverage สูงตามมาด้วยการส่ง Lot เกิน เพราะว่า ใช้ Leverage สูงทำให้เงินที่ปรากฏใน Margin Call นั้นน้อย สิ่งที่ทำให้คนหรือเราย่ามใจ เมื่อเห็นว่า เฮ้ยใช้ Margin นิดเดียวเองและไม่ควบคุมจำนวนออเดอร์ในการเทรด สิ่งที่ตามมาคือ Over Lot ในการเทรด เพราะไม่มีตัววัดขนาด Lot ควบคุมที่กำหนดตายตัวแน่นอน เมื่อ Lot ขนาดใหญ่เข้า เราจึงไม่รู้ตัวเลย
วิธีการแก้ไขปัญหานี้คือ การกำหนดขนาด Lot ไว้แน่นอน ว่าไม่ควรเกินเท่าไหร่ สำหรับผมแล้ว มันขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีด้วย แม้ว่าผมจะมีบัญชีขนาดหลัก 10,000 USD ผมก็จะเทรดแค่ Lot Micro โดยจะใช้ Lot ไม่เกิน 50 Lot หรือก็คือ 0.5 Standard Lot รวมกันทั้งหมด ส่วนบัญชีขนาดเล็กกว่านั้นหน่ะหรือ ก็แค่เอา 200 ไปหารก็ได้ครับ เช่น มี 1000 USD ก็หารด้วย 200 เท่ากับ 5 Lot หรือถ้าหากท่านคิดว่า มันยังเสี่ยงเกินไปก็ปรับจำนวนตัวเลขในการหารด้วย 500 ก็ได้ครับ เท่านี้ก็จะเป็นการกำหนดจำนวน Lot สูงสุดในการเทรดของท่านได้แล้ว อย่าลืมท่านต้องปรับ Leverage และตรวจสอบการใช้ Margin เงื่อนไขของแต่ละโบรคเกอร์อาจจะแตกต่างกันไป ควรศึกษาและวางแผนให้ดีก่อนครับ
เทรดไม่มีแผนการ
การเทรดไม่มีแผนการเป็นปัจจัยที่สืบเนื่องจากการที่เราไม่มีคยวามรู้และคิดว่าจะมาทำกำไรจากตลาดนี้ง่าย ๆ นั่นแหละครับ มันเป็นลักษณะเดียวกับข้อ 2 เลยเพราะว่า ข้อ 2 สำหรับคนที่ไม่ได้ทำ ก็คือแผนการเทรดประเภทหนึ่งนั่นแหละ การที่ไม่มีแผนการเทรดทำให้เราเทรดสะเปะสะปะ ไม่มีเป้าหมายหรือผลที่ชัดเจนว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย และพอผิดพลาดความโลภก็เข้าครอบงำ ความกลัวเข้าครอบงำทำให้ตัดสินใจอย่างไรเหตุผล
Over Trade
ตัวอย่างอีกตัวอย่าง นอกจากจะ Overlot แล้วก็คือ Overtrade การ Overtrade สามารถทำให้เกิดเหตุการณ์ล้างพอร์ทได้ทั้งในรูปแบบของการเทรดมี Stop loss และไม่มี Stop loss การ Overtrade คือ การเทรดเยอะเกินไปไม่สนใจจังหวะสัญญาณ มันสืบเนื่องมาจากการเทรดที่ไร้แผนการเทรดนั่นแหละครับ จะเห็นว่าเหตุการณ์มันเชื่อมโยงกันหมด ทำให้เราผิดพลาดได้ง่าย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมดังนี้
คอร์สเรียนสำหรับมือใหม่ ฟรี!! : คลิกที่นี่
คลังบทความความรู้เพิ่มเติม : คลิกที่นี่
บทความรีวิวโบกเกอร์เพิ่มเติม : คลิกที่นี่
บทวิเคราะห์รายวัน : คลิกที่นี่